วันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ลัลล้า @ (Review: สวิส ตอนที่ 4 Interlaken จุงเฟรา)



เมือง Interlaken เป็นที่รู้จักว่าเป็นแหล่งเล่นสกีในใจกลางประเทศ ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบ Thun และ Brienz   มีชื่อเสียงในมุมมองที่สวยงามของภูเขา โดยเฉพาะบนภูเขา Jungfrau (จุงเฟรา หรือยุงค์เฟรา)ที่แปลว่าสาวน้อย แห่งเทือกเขาแอลป์ มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี และมีสถานีรถไฟ Jungfraujoch ซึ่งถือเป็นสถานีรถไฟที่อยู่สูงที่สุดในยุโรป โดยทำสถิติไว้ถึง 3,454 เมตร
วันนี้วางแผนออกเดินทางกันแต่เช้าจากเมือง Luzern เพื่อจะไป Interlaken ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง เช็คตารางเดินรถให้ดีเพราะจะมีทั้งแบบวิ่งตรง หรือต้องเปลี่ยน ขบวน พยายามเลือกให้เป็นแบบวิ่งตรงเพื่อประหยัดเวลา

ตารางเดินรถไฟ Interlaken

เส้นทางรถไฟสายนี้จะมีตู้รถไฟพิเศษที่ชื่อ Golden Pass Panoramic ซึ่งตัวขบวนจะเป็นสีทอง มีลักษณะเฉพาะคือบานกระจกด้านข้างขนาดใหญ่ช่วยทำให้สามารถเห็นวิวแบบพาโนรามา ได้ตลอดเส้นทางการเดินทาง โดยเราสามารถใช้ตั๋ว Swiss Pass ในการขึ้นได้ ฟรี (สำหรับกรณีที่ได้ Upgrade เป็นตั๋วพิเศษชั้น 1 เท่านั้น)



 รถไฟ Golden Pass Panoramic


ที่ต้องวางแผนเดินทางแต่เช้า เพื่อจะได้ทันขึ้นรถไฟไปจุงเฟรา ซึ่งต้องใช้เวลาอีกกว่า 2-3 ชั่วโมงในการขึ้นไป ต้องวางแผนให้ดี ลองเช็คเวลาเปิดปิด ซึ่งจะปรับเปลี่ยนตามฤดูกาล อย่างในช่วงหน้าหนาว จะเปิดตั้งแต่ 8 โมงเช้า และปิดตั้งแต่ บ่าย 3 โมงครึ่ง ดังนั้น ในบางช่วงหากเราขึ้นช้า ก็จะมีเวลาอยู่ข้างบนได้ไม่นาน (เว็บไซต์ http://www.jungfraubahn.ch/)


 เมือง Interlaken มีสถานีหลักๆด้วยกัน2สถานีคือ สถานี Interlaken Ost (ออกเสียง อินเทอลาเค่น ออกซ์) (จุดที่ 1 ) ที่อยู่ทางด้านฝั่งตะวันออก และสถานี Interlaken West (จุดที่ 2) ซึ่งทางฝั่งตะวันตก  


แผนที่ Interlaken
* สถานี Interlaken West ห่างจาก สถานี Interlaken Ost เพียงสถานีเดียว สามารถที่จะนั่งรถบัสหรือเดินก็ได้
ที่พักครั้งนี้เราแนะนำที่ฝั่ง Interlaken West เพราะว่ามีร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึกเยอะแยะมากมาย
โรงแรม Hotel Blume / El Azteca   ราคา ห้อง Double Room อยู่ที่ CHF 85 ต่อคืน และห่างจากสถานีรถไฟเพียงแค่ 2-3 ร้อยเมตร
ระดับ  2 ดาว
Feedback 7.7

แผนที่โรงแรม Hotel Blume / El Azteca 



เจ้าหน้าที่ของโรงแรมที่เราเลือกพัก อัธยาศัยดีมากๆ อีกทั้งด้านล่างของโรงแรม ยังเป็น Pub สไตล์ Mexican  ซึ่งกลางคืนหากใครเบื่อที่จะนอนจับเจ่า อยู่ที่ห้อง ที่นี่ ก็ลองมานั่งสั่งดริงค์ซักก้วสองแก้วพร้อมกับฟังการเล่นดนตรีสด หรือจะออกมานั่งจิบไวน์เย็นๆ รับลมหนาว พร้อมชมวิวภูเขาจุงเฟราเป็นฉากหลัง บรรยากาศสุดๆ ไม่ต้องบรรยาย  เมื่อเช็คอินแล้วพนักงานจะให้บัตรทานอาหารเช้า บัตรโดยสารรถเมล์ฟรี ตามจำนวนวันที่เราเข้าพัก(แต่ไม่ได้ใช้เพราะเรามีบัตร Swiss Pass อยู่ ) อีกทั้งยังมีเครื่องดื่มต้อนรับ (welcome drink) ให้คนละแก้ว ซึ่งเลือกได้ว่าจะชิม ไวน์ รสนุ่ม หรือจะเป็นเบียร์เย็นๆ แบบเม็กซิกัน แต่เราเก็บเอาไว้มาดื่มตอนเย็น ดีกว่า เพราะหากก้งกันไปตอนนี้ เดี๋ยวจะเมาหมดเรี่ยวหมดแรงไปเที่ยวกันซะก่อน
Interlaken West เพื่อไปลงยังสถานี Interlaken Ost ซึ่งมีตลอดเกือบทุก 5 นาที เมื่อถึงสถานี ให้ไปติดต่อซื้อตั๋ว ขึ้นยอดเขาจุงเฟรา และอย่าลืมแสดงบัตร Swiss Pass เพื่อรับส่วนลดด้วย อ้อ ในระหว่างที่รอรถขึ้นจุงเฟราถ้ามีเวลาก็ไปซื้อของกินระหว่างเดินทางได้ที่ Coop หรือ Migros หรือ จะถ้าอยากได้อาหารหนักท้องแถวหน้าสถานีจะมีร้านอาหารจีนขายอยู่ชั้น 2 ราคาไม่แพง

ตั๋ว จุงเฟรา 

เส้นทางเดินทางขึ้นสู่ยอดเขาจุเฟรา  จะสามารถขึ้นได้สองทาง คือจะผ่านทาง Grindelwald หรือจะผ่านทาง Lauterbrunen ก็ได้ ซึ่งภาพบรรยากาศก็สวยงามต่างกัน ดังนั้น สำหรับทริปนี้เราจะะเลือกเดินทางโดยขึ้นไปทาง Grindelwald และลงทางฝั่งของ Lauterbrunnen เพื่อจะได้ชมบรรยากาศทั้ง 2 ฝั่งอย่างเต็มที่

แผนที่ขึ้น จุงเฟรา 

Interlaken Ost - Grindelwald - Kleine Scheidegg - Jungfraujoch - Kleine Scheidegg - Lauterbrunnen - Interlaken Ost
สาวน้อย Jungfrau  ได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดของยุโรป (TOP OF EUROPE) มีกลาเซียหรือธารน้ำแข็ง Aletsch ขนาดใหญ่ที่ทอดยาวๆไปสุดลูกหูลูกตา ถือเป็นธารน้ำแข็งที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ ยาวถึง 22 ก.ม. และหนา 700 เมตรโดยไม่เคยละลาย และได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติของ Unesco บนยอดเขายังมีถ้ำน้ำแข็ง ที่มีอายุกว่าพันปี ซึ่งจะมีงานแกะสลักเป็นรูปแบบต่างๆ ตามแต่หน้าเทศกาล นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวที่สูงที่สุดในยุโรปหรือ Sphinx  และสุดท้ายที่พลาดไม่ได้เลยคือการส่งโปสการ์ดจากที่ทำการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในยุโรป  (อะไรๆ ก็สูงที่สุด )

เส้นทางรถไฟวิ่งจาก Interlaken Ost ผ่านขึ้นมายัง Grindelwald ยังพอเห็นทุ่งหญ้าและบ้านคน 

เมื่อถึงสถานี Grindelwald แล้วจะต้องเปลี่ยนขบวนรถไฟ เพื่อขึ้นไปยังสถานี Kleine Scheidegg  ซึ่งหากขึ้นมาทางฝั่ง Lauterbrunnen ก็จะมาบรรจบกันที่สถานีนี้
สถานี Grindelwald 
 รถไฟจะไต่ระดับความสูงขึ้นเรื่อยๆ จนมาถึง สถานี Kieine Scheidegg ที่นี่นอกจากเป็นจุดพักผู้โดยสารที่จะรอขึ้นไปเที่ยว จุงเฟราแล้วยังเป็นจุดสำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจในการเล่น สกี หรือ สโนว์บอร์ด ได้ท้าประลองความสูงกันอีกด้วย บางช่วงจะมีการจัด คอนเสิร์ต Open Season ซึ่งถือป็นการเล่นดนตรีสดกลางแจ้งที่สูงที่สุดในโลก อีกด้วย (เพราะอะไรๆก็ที่สุดมาแล้ว) ที่จุดนี้หากเราขึ้นมาถึงช่วงเที่ยง ก็พักทานข้าวที่นี่กันก่อนระหว่างรอรถไฟ

รถไฟขบวนนี้แหละ จะพาเราไปหาสาวน้อย (คุณแฟนได้ยิน ฮึ่มๆๆ )


สถานี Kieine Scheidegg 



 คุณลุงใจดีเริ่มตรวจตั๋วแล้วจ๊า 
สถานีช่วงฤดูร้อนไม่มีแม้แต่หิมะ  


ทีนี้ละจะเป็นรถไฟไต่เขาของแท้เพราะจะเป็นทางลาดชัน พร้อมทั้งลอดตามช่องเขา หุบเขาต่างๆ โดยรถไฟไต่เขานี้จะมีการจอดพักจุดชมวิวด้วยกัน สองจุด คือ  Eigerwand และ Eismeer ก่อนจะถึง Jungfraujoch ซึ่งเป็นสถานีสูงสุดและเป็นสถานีสุดท้าย แต่ละจุดพัก จะมีเวลาประมาณ 5 นาที ในการให้เดินไปชมจุดชมวิว แต่ไม่ต้องรีบ เพราะอากาศข้างบนจะค่อนข้างเบาบาง ทำให้เหนื่อยง่าย เจ้าหน้าที่จะมีการเป่าประกาศก่อนที่รถไฟจะเคลื่อนต่อ และจุดชมวิวก็ไม่ได้ไกลมากจากสถานี





จุดชมวิว และสถานี พักระหว่างทาง

 เอ้า สถานีต่อไป จุงเฟรา  Please mind your step between the train and the platform 

แผนที่ สถานี Jungfraujoch  

เมื่อขึ้นมาถึงสถานีปลายทาง จะเห็นรูปปั้นของนาย A.Guyer-Zeller ผู้ริเริ่มคนแรกในการจัดทำรถไฟสายจุงเฟรา แห่งนี้ นี่เอง
A.Guyer-Zeller 

เข้าไปด้านในจะพบกับพิพิธภัณฑ์ย่อยๆ ซึ่งจัดแสดงภาพ อุปกรณ์ สมัยที่ใช้ในการก่อสร้างสถานีรถไฟแห่งนี้ รวมถึงตัวรถไฟต้นแบบในยุคแรก มาจำลองให้ดูด้วย
เชิงตะเกียงและโทรศัพท์สื่อสารที่ใช้สมัยช่วงสร้างทางรถไฟ 

รถไฟโมเดลแรก

 จากแผนที่ แยกไปเดินในถ้ำน้ำแข็ง (Ice Palace) เพื่อเดินไปชมรูปปั้นแกะสลัก และอุโมงน้ำน้ำแข็งที่อายุกว่าพันปี



 ถ้ำน้ำแข็ง 

 เดินขึ้นมาด้านบนเพื่อมายังจุดชมวิว บริเวณจุดนี้จะมีจุดให้ออกไปด้านนอก เพื่อไปสัมผัสกับอากาศระดับติดลบ  Hilight ของจุดนี้คือธงชาติสวิสสีแดงๆนี่แหละที่ตัดกับสีหิมะขาวโพลนบนยอดเขา มองเห็นปุยเมฆเหมือนเราอยู่บนสวรรค์เลย



ถ่ายรูปซะหน่อยแสดงว่ามาถึงแล้วจุดที่เรียกว่า Top of Europe

ธารน้ำแข็งกลาเซีย ที่ไกลสุดลูกหูลูกตา   

ออกไปยืนได้แค่ไม่กี่นาทีต้องรีบเข้ามา เพราะเย็น และลมแรงมาก ๆ ตัดสินใจเข้ามาชมต่อภายใน  จากนั้นก็ไปขึ้นลิฟท์เพื่อไปยังจุดชมวิวที่สูงที่สุดที่เราขึ้นไปได้ นั่นคือหอคอยสฟิงค์  ที่เคยเป็นหอสำรวจอากาศมาก่อน 


 ดูจากเครื่องตรวจวัดแล้วหนาวมากๆ

หอคอยสฟิงค์

กลับเข้ามาภายใน จะมีร้านอาหาร ร้านกาแฟไว้บริการ พร้อมจุดขายของที่ระลึกที่นี่จะมีตู้ไปรษณีย์ ที่อยู่จุดสูงสุด (อีกแล้ว)  ใครชอบเรื่องนี้ก็อย่าพลาดเขียน โปสการ์ด เพื่อเป็นที่ระลึก ก่อนจะรอรถไฟกลับลงไปด้านล่าง


ส่งไปรษณีย์ให้ตัวเองดีกว่า
 





Lauterbrunnen

ที่เที่ยวอื่นๆที่น่าสนใจ  (First)
หากใครได้มีโอกาสมาอยู่สวิสหลายๆวันก็อยากให้ลองไปพักที่ Grindelwald หรือ Lauterbrunnen ด้วย จุดท่องเที่ยวอีกจุดที่น่าสนใจคือการไปเยือน ยอดเขาเฟียสในหน้าร้อน เพราะจะมีเส้นทางเดินเท้ายอดนิยม ชมวิวทิวทัศน์แบบสบายๆประมาณหนึ่งชั่วโมงไปยังจุดชมวิวบนหุบเขาเฟียส  ที่นี่ยังมี "ทะเลสาบบัคอับบ์" (Bachalpsee) อันสวยงามที่มีน้ำใสแจ๋วราวกระจกรอให้คนถ่ายรูปสวยๆ เก็บไว้เป็นที่ระลึกและเอาไว้อวดคนไม่เคยมาให้แปลกใจว่าบนภูเขาสูงชันขนาดนี้ยังมีโอเอซิสคือทะเลสาบบัคอับบ์อยู่อีกด้วย



ทะเลสาบบัคอับบ์ 
กิจกรรมสนุกๆ ที่ First อาทิการเล่น Trottibike เหมือนเรานั่งจักรยานแล้วไหลลงมาจากยอดเขา สุดยอดมากๆ




สัญลักษณ์อีกอย่างของที่นี่คือเจ้าเซนเบอร์นาด หรือสุนัขช่วยชีวิตนั่นเอง 

ขากลับรถไฟจะไม่มีการจอดแวะเหมือนตอนขาขึ้น จนถึงสถานี Kieine Scheidegg ตรงจุดนี้ให้รอฟังประกาศว่า ชานชาลาไหนจะวิ่งไป Lauterbrunnen พอขึ้นแล้วก็พักผ่อนกันยาวเลย ทุกคนคงจะเพลียกันมาก เพราะอากาศด้านบนเบาบางทำให้เหนื่อยง่าย เมื่อลงมาถึงสถานี Lauterbrunnen มีจุดสวยๆ มากมาย มองเห็นน้ำตกไหลลงจากยอดเขาสูง ถ้าใครวางแผนมานอนพักที่นี่ ก็แนะนำ เพราะสวยงามมาก ถึงแม้จะเงียบเหงาไปหน่อยก็ตาม เรานั่งรถไฟต่อเพื่อกลับมาทานข้าวเย็นที่ Interlaken ซึ่งมีเยอะกว่า  ก่อนจะกลับโรงแรมเราพักทานข้าวแถวหน้าสถานีซึ่งมีหลายร้าน ทั้งร้านจีน ร้านเกาหลี แล้วค่อยกลับไปดริงค์กันต่อที่ผับด้านล่างโรงแรม ก่อนขึ้นนอน เตรียมแรงไว้ตะลุยต่อพรุ่งนี้

บ๊ายบาย จุงเฟรา



ในขณะที่ไปถึงจะเป็นช่วงเช้ามาก หากห้องพักยังไม่พร้อมเจ้าหน้าที่ก็จะให้เราฝากกระเป๋าเอาไว้ก่อน ก่อนเดินทางก็อย่าลืมเตรียมชุดกันหนาว หมวก ถุงมือ แว่นตากันแดด ให้พร้อม จากตัวโรงแรม ซึ่งไม่ห่างจากสถานี ให้เราเดินไปขึ้นรถไฟที่สถานี


ปลายทางอยู่แค่ปลายนิ้วจิ้ม ^ ^

 บรรยากาศเมื่อเข้าสู่ Interlaken

5 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ26 สิงหาคม 2555 เวลา 09:09

    สวยมากคะ่พี่กำลังจะไปวันศุกรนี้ ว่าจะขึ้นทางGrindelwald แล้วแวะชมเมืองนี้ก่อนค่อนต่อไปยังJungfrau ได้ใช่มั๊ยคะ
    ขากลับลงอีกทางว่าจะแวะเที่ยวเมืองmurrenด้วย
    บนยุ้งฟาวถ้าไม่ออกไปสัมผัสหิมะคงไม่หนาวเท่าไรใช่มั๊ยคะไม่อยากแบกเครื่ิองกันหนาวเลย กลัวจะหนักอะ่คะ่ตอนเดินเที่ยวเมืองข้างล่าง
    ขอคำแนะนำหน่อยจะ๊

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ได้ครับ ถ้าไปเดือนนี้ อากาศดีมากๆ แต่ยังไงบน ยุงเฟราก็มีหิมะตลอดปี ควรเอาเสื่อผ้าหนาๆไปด้วยนะครับ ขอห้เที่ยวให้สนุกและจดจำเวลาดีๆ Enjoy and safe your trip na krub. ^_^

      ลบ
  2. รบกวนขอ E-mail สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ

    ขอบคุณค่ะ

    ตอบลบ
  3. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  4. อยากไปเที่ยวยอดเขาจุงเฟรา ทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ เข้ามาดูรายละเอียดในเว็บไซต์ก่อนได้นะคะ มีหลายโปรแกรม ราคาไม่แพง http://www.lofttravel.com

    ตอบลบ