ทำวีซ่าไม่ยากอย่างที่คิด
หลายๆคนถามว่า ทำอย่างไรให้ขอวีซ่าผ่านได้ง่ายๆ จริงๆแล้วสถานทูตนอกจากจะใช้เอกสารตามที่ร้องขอในการพิจารณาแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆอีก อาทิ เช็คประวัติการเดินทาง เคยเดินทางต่างประเทศมาบ้างหรือยัง มีประวัติเสียไม๊ เคยถูก แบล็คลิสจากประเทศไหนบ้าง มีการเข้าออกประเทศบ่อยแค่ไหน อีกเรื่องก็คือเรื่องสภาพคล่องของการเงิน เจ้าหน้าที่สถานทูตจะพิจารณาด้วยว่าเราจะมีปัญญาอยู่ในประเทศเค้าได้นานรึป่าว (คงกลัวหนีไปทำงาน) และยังช่วยเราดูด้วยว่าเราจะมีปัญหาการเงินหรือปล่าวหลังกลับมา (ไม่ใช่กลับมาต้องกินแกลบเป็นเดือนๆ) สำหรับเรื่องหลักฐานการเงิน (Statement) เราควรจะวางแผนล่วงหน้านานๆ ซักครึ่งปี ถึงแม้สถานทูตจะขอ Statement ดูย้อนหลังแค่ 3 เดือน ดังนั้นควรจะปรับปรุงให้สวยงาม ไม่ใช่ ติดลบตลอด แบบนี้ก็ไม่ไหวนะ หลายๆคนใช้วิธี ยืมเงินพ่อแม่มาใส่บัญชี ไว้ล่วงหน้าครึ่งปีให้เป็นเงินก้อนใหญ่ๆ ก็เป็นวิธีแก้ไขอีกวิธี ปัจจัยอีกปัจจัยหนึ่งซึ่งไม่อยากจะพูดถึงก็คือเรื่อง เพศ โดยเฉพาะคุณผู้หญิง ยิ่งถ้าเดินทางคนเดียวจะขอวีซ่าได้ค่อนข้างยาก เพราะสถานทูตเค้ากลัวว่าจะเข้าไปทำอาชีพขายบริการ ดังนั้นเราต้องมีเอกสารการทำงานประกอบไปด้วยเพื่อให้เค้าแน่ใจว่าเมื่อคุณเข้าไปยังประเทศเค้าแล้วจะกลับมา แน่นอน
การทำวีซ่าสำหรับการเดินทางในครั้งนี้ จะต้องทำด้วยกัน 2 ตัวคือ เช็งเก้น (Schengen) วีซ่า และอียิปต์วีซ่า ซึ่งในการขอวีซ่าเช็งเก้น สามารถที่จะขอที่สถานทูต ใดก็ได้ ที่เป็นประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป (European Union: EU) ที่เราจะเดินทางไป แต่จะต้องเป็นประเทศที่เราพำนัก หรือพักอยู่นานที่สุด อย่างเช่น ในทริปเราทั้งหมด 10 วัน ไปค้างฝรั่งเศส 3 คืน ไปสวิส 4 คืน และจบที่อิตาลี 3 คืน ก็ให้ดำเนินการขอวีซ่า ที่สถานทูต สวิส (ในกรณีที่เกิดว่าประเทศที่พำนักนานที่สุด มีเท่ากัน ก็ควรจะยื่นวีซ่าที่สถานทูตของประเทศแรกที่เราจะเดินทางเข้าไป )
วีซ่าเช็งเก้น
รายชื่อประเทศในกลุ่ม EU และเข้าร่วม เช็งเก้นวีซ่า มีประเทศที่เข้าร่วมด้วยกันทั้งสิ้น 25 ประเทศ ได้แก่ Belgium Denmark Finland France Switzerland Greece Iceland Italy Luxembourg Netherlands Norway Portugal Germany Austria Spain Sweden Estonia Hungary Latvia Lithuania Malta Poland Slovakia Slovenia Czech และยังมีประเทศในกลุ่ม EU ที่ยังไม่เข้าร่วมเช็งเก้นวีซ่านั่นหมายความว่าจะต้องขอวีซ่า ของประเทศนั้นๆ ต่างหาก เช่นประเทศ Bulgaria Cyprus Ireland Romania and The United Kingdom.
ภาพธงสหภาพยุโรป เอกสารใบคำร้องและเอกสารอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการยื่นขอวีซ่านั้นสามารถพิมพ์แบบฟอร์มใบคำร้องจากทางเว็บไซด์ของแต่ละสถานทูต ค่าธรรมเนียมวีซ่า ปัจจุบันอยู่ที่ 60 ยูโร (อัตราแลกเปลี่ยนตามประกาศของแต่ละสถานทูต ให้โทรเช็คอีกครั้ง บางสถานทูตรับเป็นเงินยูโร บางสถานทูตรับทั้งเงินไทยและเงินยูโร) เอกสารประกอบการยื่นคำร้องในการยื่นขอเช็งเก้น วีซ่า สำหรับท่องเที่ยว 1. ใบสมัครขอวีซ่าพำนักระยะสั้น (ฉบับจริง) 2. รูปถ่ายสี 2 นิ้ว พื้นหลังสีขาว 3. หนังสือเดินทาง (ฉบับจริง) หนังสือเดินทางต้องมีอายุการใช้งานเหลืออย่างน้อย 6 เดือน นับจากวันที่ยื่นขอวีซ่า และต้อง มีหน้าเปล่าสำหรับประทับตราวีซ่าเหลืออย่างน้อย 1 หน้า โดยในหน้าดังกล่าวต้องระบุคำว่า "วีซ่า" ในหน้าหนังสือ เดินทาง 5. สำเนาหนังสือเดินทาง 5 หน้าแรก หรือ หน้าที่มีข้อมูลของผู้ถือหนังสือเดินทาง รวมถึงทุกหน้าที่มีตราประทับวีซ่าของ ประเทศที่เคยเดินทาง 6. หนังสือเดินทางฉบับเก่า (ฉบับจริง) หากมีหนังสือเดินทางฉบับเก่าที่หมดอายุการใช้งานแล้ว ให้นำมาแสดงต่อ เจ้าหน้าที่ด้วย 7. สำเนาหนังสือเดินทางฉบับเก่า 8. เอกสารการจองตั๋วเครื่องบินแบบไป - กลับ จาก/ถึง ประเทศไทย (สำเนา) หนึ่งชุดต่อหนึ่งคน 9. วีซ่าหรือเอกสารเดินทางที่ถูกต้องสำหรับจุดหมายปลายทางหลัก (สำเนา) (หากผู้ยื่นต้องการเดินทางไปต่างประเทศนอกเหนือจากประเทศในเขตเชงเก้น ต้องได้รับวีซ่าเพื่อเดินทางเข้าประเทศนั้นๆก่อน จึงจะสามารถยื่นคำร้องขอวีซ่าประเภทนี้ได้) 10. ประกันภัยการเดินทาง ออกโดยบริษัทยุโรปหรือ บริษัทประกันที่ได้รับการรับรอง (สำเนา) สามารถเช็คได้กับเว็บไซต์ของสถานทูต แนะนำว่า ไม่ควรซื้อ การบริการหรือประกันจากบุคคลหรือบริษัทที่ไม่มีใบอนุญาต 10.1. ประกันภัยการเดินทางควร - สามารถใช้ได้เมื่อสมัครวีซ่าแบบพำนักระยะสั้นในประเทศเขตเชงเก้น - สามารถใช้ได้เมื่อเดินทางเข้าเขตการปกครองโพ้นทะเลของประเทศฝรั่งเศส (DROM หรือCTOM) 10.2. ประกันภัยการเดินทางต้องครอบคลุมถึงค่ารักษาพยาบาลและการส่งตัวกลับ ซึ่งวงเงินประกันต้องมากกว่า 30,000 ยูโร (หรือประมาณ 1.5 ล้านบาท) 10.3. ประกันภัยการเดินทางต้องครอบคลุมตลอดระยะเวลาที่พำนักอยู่ที่ประเทศเขตเชงเก้น 11. สำเนาการจองโรงแรม (จองผ่านทางอินเตอร์เนตโดยไม่ได้รับรองบัตรเครดิตไม่สามารถนำมาเป็นหลักฐานได้) 12. หนังสือรับรองการให้ที่พัก ออกโดยศาลากลางท้องถิ่นของบุคคลที่จะ ไปพำนักด้วยตลอดระยะเวลาที่พำนัก (ฉบับจริง + สำเนา) 13. ใบรับรองความเป็นเจ้าของทรัพย์สิน หรือสัญญาเช่า หรือหนังสือจากเจ้าบ้านที่พักในประเทศฝรั่งเศส 14. สมุดบัญชีแสดงรายการเดินบัญชีครอบคลุมระยะเวลา 3 เดือนล่าสุด รายการเดินบัญชีครอบคลุมระยะเวลา 3 เดือนล่าสุด ออกโดยธนาคารฉบับจริง และสำเนา พร้อมตราประทับ หนังสือรับรองบัญชี ออกโดยธนาคาร ฉบับแปล (ต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษ) พร้อมตราประทับ 15. หนังสือรับรองการทำงาน (ฉบับจริง) หนังสือรับรองการทำงานจากนายจ้าง ระบุชื่อ และตำแหน่งของผู้ยื่น เงินเดือน สิทธิ์ในการลา และระบุถึงบุคคลที่มีหน้าที่รับผิด ชอบทางด้านการเงินตลอดระยะเวลาที่ผู้ยื่นพำนักอยู่ ซึ่งในเอกสารฉบับนี้ต้องระบุ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์และหมายเลขแฟกซ์ของนายจ้าง ตราประทับของบริษัท ลายเซ็น พร้อมระบุชื่อและตำแหน่งของผู้ออกหนังสือฉบับนี้ หนังสือรับรองการทำงาน ฉบับแปล (ต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษ) 16. หนังสือรับรองเงินเดือน (ต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษ) พร้อมตราประทับของบริษัท 17. สลิปเงินเดือน 3 เดือนล่าสุด (สำเนา) สลิปเงินเดือน 3 เดือนล่าสุด ฉบับแปล (ต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษ) 18. ค่าวีซ่า ปัจจุบัน (เมษายน 2553) อยู่ที่ 60 ยูโร ซึ่งจะต้องสอบถามสถานทูตอีกครั้ง หากชำระเป็นเงินบาท ซึ่งราคาจะเปลี่ยนแปลงไปตามอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งสถานทูตจะแจ้งให้ทราบ โดยจะต้องเตรียมเงินให้ครบพอดีจำนวน เพราะเวลายื่นเจ้าหน้าที่จะไม่มีการทอนเงิน กฎระเบียบของ Schengen อื่นๆที่ควรทราบ · จะต้องเผื่อเวลาสำหรับการยื่นขอวีซ่า แนะนำว่าควรจะเริ่มทำวีซ่าล่วงหน้าอย่างน้อย 2 เดือน เผื่อกรณีที่วีซ่า ติดปัญหา และต้องส่งเอกสารเพิ่มเติมจะได้มีเวลาทัน หรือหากต้องมีการปรับตาราง ทัวร์อันเนื่องมาจากเห็นผลอันใดก็แล้วแต่ จะได้มีเวลาพอ · หากได้มีการพำนักอยู่ใน Schengen เป็นระยะเวลา 3 เดือน หรือมากกว่า, การที่จะขอวีซ่าเข้าประเทศในกลุ่ม Schengen ได้อีกครั้งหนึ่ง นั้นจะต้องรอเป็นเวลา 3 เดือน ก่อนที่จะขอใหม่ได้ · หากผู้ที่ต้องการขอวีซ่า Schengen เป็นบุคคลสัญชาติอื่นแต่อาศัยอยู่ในประเทศไทย บุคคลนั้นๆจะต้องแสดงให้เห็นถึงตราประทับให้กลับมายังประเทศไทยอีกครั้ง (Re-entry or Multiple entries) · ค่าธรรมเนียมในการขอวีซ่าจะเปลี่ยนแปลงทุกเดือนตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ ควรจะตรวจสอบค่าธรรมเนียมที่ถูกต้องตามลักษณะวีซ่าของท่านในวันที่มาขอวีซ่า · โดยปรกติแล้ว วีซ่า Schengen ที่ออกให้บุคคลจะมีระยะเวลาไม่เกิน 90 วัน ระยะเวลาในการพิจารณาประมาณ 7 วันทำการ · บางสถานทูตอย่างเช่น สถานทูตสวิส ผู้ที่มาขอวีซ่าต้องมาดำเนินการด้วยตนเองและต้องแนบเอกสารประกอบการขอวีซ่ามาให้ครบถ้วน เนื่องจากเอกสารที่ไม่ครบถ้วนหรือการกรอกแบบฟอร์มที่ไม่ถูกต้อง หรือไม่ครบถ้วนอาจส่งผลให้การขอวีซ่าถูกปฏิเสธได้ และหากต้องการยื่นเรื่องใหม่ภายหลังที่ถูกปฏิเสธไปแล้ว จะต้องแนบเอกสารประกอบการพิจารณามาใหม่ทั้งหมด*สถานทูตฝรั่งเศส
เว็บไซต์: http://www.ambafrance-th.org/
ในการขอวีซ่า ฝรั่งเศส ตอนนี้ ทาง สถานทูตได้มอบหมายให้ TLScontact ( https://www.tlscontact.com/ ) เป็นผู้ดำเนินการแทน ดังนั้นจะต้องเข้าไปทำการนัดหมายผ่านทางเว็บไซต์ ของ TLScontact ซึ่งเอกสารดำเนินการจะเหมือนกัน แต่จะมีค่าใช้จ่ายที่เป็นค่าธรรมเนียมของ TLScontact อีก 1,200 บาท เพิ่มจากค่าขอวีซ่า อีกที ดังนั้น ขึ้นอยู่กับความสะดวก และ แผนการเดินทางของคุณ แต่สำหรับทริปนี้ ทางผู้เขียนจัดให้พักอยู่ที่สวิสเซอร์แลนด์นานที่สุด จึงแนะนำให้ไปขอวีซ่าที่สถานทูตสวิส ซึ่งทำให้ประหยัดได้อีก 1,200 บาท
สถานทูตสวิสเซอร์แลนด์
เว็บไซต์: http://www.eda.admin.ch/
คุณจะต้องโทรไปนัดหมาย ล่วงหน้าได้ที่เบอร์ 1900-222-340 นาทีละ 9 บาท และการขอวีซ่า จะต้องเดินทางไปด้วยตนเองช่วงเช้าจะเป็นเวลาสำหรับการยื่นขอวีซ่า ตั้งแต่ 09:00-11:30 และในช่วงบ่าย ตั้งแต่ สำหรับ ติดต่อเพื่อขอรับวีซ่า เท่านั้น สถานทูต ตั้งอยู่บนถนนวิทยุ ใกล้แยกเพลินจิต ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพ การเดินทางสามารถไปด้วยรถไฟฟ้า BTS แล้วลงสถานี เพลินจิต
สำหรับสถานทูตอิตาลี
เว็บไซต์: http://www.ambbangkok.esteri.it/
สามารถโทรไปจองวันนัดเข้ายื่นวีซ่า ได้ที่เบอร์ 1900-222-344 โดยสามารถนัดล่วงหน้าได้ไม่เกิน 1 เดือน และหากเลยวันที่นัดไปแล้ว จะต้องทำการโทรนัดใหม่อีกครั้ง
สามารถนัดหมายเวลาเพื่อขอยื่นวีซ่า ได้ในเวลา
8:00-20:00 น. วันจันทร์ – วันศุกร์ ในช่วง 1 มีนาคม – 31 ตุลาคม
8:00-17:00 น. วันจันทร์ – วันศุกร์ ในช่วง 1 พฤศจิกายน – 28 กุมภาพันธ์
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) สำหรับการยื่นขอวีซ่า จะสามารถดำเนินการได้ตั้งแต่วันจันทร์ –ศุกร์ เวลา: 9:00 – 13:00 ส่วนการรับวีซ่า สามารถดำเนินการได้ตั้งแต่เวลา : 14:30 – 15:30
วีซ่าอียิปต์
สถานทูตอียิปต์
ใช้เวลาดำเนินการ 3วันทำการ (อาจจะมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับเอกสารในการยื่นวีซ่า และการพิจารณาของสถานทูต) ค่าธรรมเนียมวีซ่า : วีซ่าประเภทท่องเที่ยว แบบเข้า-ออก ครั้งเดียว 1,500 บาท/ท่าน สำหรับเอกสารประกอบการยื่นคำร้อง 1. หนังสือเดินทาง ต้องมีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือน (สำหรับท่านที่มีหนังสือเดินทางเล่มเก่า กรุณานำมาประกอบการยื่นวีซ่าด้วยเพื่อความสะดวกในการพิจารณาวีซ่าของท่านและหนังสือเดินทางต้องมีหน้าเหลืออย่างน้อย 2 หน้า) 2. รูปถ่ายปัจจุบัน หน้าตรง 2 นิ้ว จำนวน 2 ใบ พื้นหลังสีขาวเท่านั้น (ควรใช้รูปสีถ่ายมาตรฐานไม่เกิน 6 เดือน ซึ่งขยายจากฟิล์มเท่านั้น รูปถ่ายจากกล้องแบบโพลาลอยด์ และหรือ ถ่ายแบบสติ๊กเกอร์ใช้ไม่ได้) และกรุณาเขียนชื่อ-นามสกุลตัวบรรจงไว้ด้านหลังรูป 3. หลักฐานการเงิน สำเนาสมุดเงินฝากส่วนตัวของผู้เดินทาง ตั้งแต่หน้าแรกจนถึงหน้าปัจจุบัน (ย้อนหลัง 6 เดือนและปรับยอดสมุดเงินฝากให้เรียบร้อยก่อนถ่ายสำเนา) พร้อมตรารับรองของธนาคาร *** สถานฑูตฯ อาจขอดูสมุดเงินฝากเล่มจริงของท่าน 4. หลักฐานการทำงานพร้อมตราประทับของบริษัท (ภาษาอังกฤษและเป็นหลักฐานปัจจุบันเท่านั้น) 5. หนังสือรับรองการทำงานจากบริษัทฯ ระบุตำแหน่ง, เงินเดือน, วันเริ่มทำงาน และ ช่วงเวลาที่อนุมติให้ลาหยุด (แปลเป็นภาษาอังกฤษ) 6. กรณีเป็นเจ้าของกิจการ สำเนาใบทะเบียนการค้าและหนังสือรับรองการจดทะเบียนที่มีชื่อของผู้เดินทางเป็นกรรมการหรือหุ้นส่วน พร้อม ทั้งเซ็นชื่อรับรองสำเนาและประทับตราบริษัทฯ (อายุสำเนาไม่เกิน 3 เดือน) 7. กรณีเป็นนักเรียนหรือนักศึกษา (ภาษาอังกฤษและเป็นหลักฐานปัจจุบันเท่านั้น) หนังสือรับรองจากทางโรงเรียนหรือสถาบันที่กำลังศึกษาอยู่ และสำเนาบัตรนักศึกษาพร้อมทั้งเซ็นชื่อรับรองสำเนา (ใช้ทั้ง 2 อย่าง) 8. เอกสารอื่นๆ สำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาบัตรประชาชน หรือสำเนาใบสูติบัตร และสำเนาใบเปลี่ยนชื่อ (ถ้ามี) กรุณาเซ็นชื่อรับรองสำเนาเอกสาร 9. กรณีที่เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ไม่ได้เดินทางพร้อมบิดามารดาหรือคนใดคนหนึ่ง จะต้องไปทำหนังสือยินยอมให้เดินทางไปต่างประเทศจากอำเภอหรือเขตที่ท่านอยู่ โดยระบุชื่อผู้ที่เด็กเดินทางไปด้วย 10. ถ้าเด็กอยู่ในความปกครองของบิดาหรือมารดาเพียงคนเดียว จะต้องมีหลักฐานรับรองว่าเด็กอยู่ภายใต้การปกครองของผู้นั้น เช่น สำเนาใบหย่า พร้อมทั้งบันทึกการหย่าซึ่งแสดงว่าเป็นผู้รับผิดชอบเด็ก 11. ถ้าเด็กอยู่ในความปกครองของผู้อื่น จะต้องมีหลักฐานรับรองว่าเด็กอยู่ภายใต้การปกครองของผู้นั้น เช่น หนังสือรับรองบุตรบุญธรรม 12. กรณีเป็นผู้สูงอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป จะต้องมีใบรับรองแพทย์ ออกโดยโรงพยาบาล โดยระบุว่า “สุขภาพร่างกายแข็งแรง สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้” และใบประกันสุขภาพการเดินทางสำหรับผู้สูงอายุ (ค่าใช้จ่ายในการทำประกันสุขภาพการเดินทางสำหรับผู้สูงอายุ ไม่ได้รวมอยู่ในค่าบริการ) ในกรณีนี้ทางสถานทูตฯ อาจจะต้องการให้มีการตรวจสุขภาพเพิ่มเติม ซึ่งขึ้นอยู่ในดุลยพินิจของสถานทูตฯ 13. กรณีสมรสแล้ว ต้องยื่นสำเนาทะเบียนสมรส,สำเนาใบหย่า หรือ สำเนาใบมรณะบัตร (กรณีคู่สมรสเสียชีวิต) พร้อมทั้งรับรองสำเนาด้วย
เอกสารใบคำร้องและเอกสารอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการยื่นขอวีซ่านั้นสามารถพิมพ์แบบฟอร์มใบคำร้องจากทางเว็บไซด์ของแต่ละสถานทูต
ค่าธรรมเนียมวีซ่า ปัจจุบันอยู่ที่ 60 ยูโร (อัตราแลกเปลี่ยนตามประกาศของแต่ละสถานทูต ให้โทรเช็คอีกครั้ง บางสถานทูตรับเป็นเงินยูโร บางสถานทูตรับทั้งเงินไทยและเงินยูโร)
เอกสารประกอบการยื่นคำร้องในการยื่นขอเช็งเก้น วีซ่า สำหรับท่องเที่ยว
1. ใบสมัครขอวีซ่าพำนักระยะสั้น (ฉบับจริง)
2. รูปถ่ายสี 2 นิ้ว พื้นหลังสีขาว
3. หนังสือเดินทาง (ฉบับจริง) หนังสือเดินทางต้องมีอายุการใช้งานเหลืออย่างน้อย 6 เดือน นับจากวันที่ยื่นขอวีซ่า และต้อง
มีหน้าเปล่าสำหรับประทับตราวีซ่าเหลืออย่างน้อย 1 หน้า โดยในหน้าดังกล่าวต้องระบุคำว่า "วีซ่า" ในหน้าหนังสือ
เดินทาง
5. สำเนาหนังสือเดินทาง 5 หน้าแรก หรือ หน้าที่มีข้อมูลของผู้ถือหนังสือเดินทาง รวมถึงทุกหน้าที่มีตราประทับวีซ่าของ
ประเทศที่เคยเดินทาง
6. หนังสือเดินทางฉบับเก่า (ฉบับจริง) หากมีหนังสือเดินทางฉบับเก่าที่หมดอายุการใช้งานแล้ว ให้นำมาแสดงต่อ
เจ้าหน้าที่ด้วย
7. สำเนาหนังสือเดินทางฉบับเก่า
8. เอกสารการจองตั๋วเครื่องบินแบบไป - กลับ จาก/ถึง ประเทศไทย (สำเนา) หนึ่งชุดต่อหนึ่งคน
9. วีซ่าหรือเอกสารเดินทางที่ถูกต้องสำหรับจุดหมายปลายทางหลัก (สำเนา)
(หากผู้ยื่นต้องการเดินทางไปต่างประเทศนอกเหนือจากประเทศในเขตเชงเก้น ต้องได้รับวีซ่าเพื่อเดินทางเข้าประเทศนั้นๆก่อน จึงจะสามารถยื่นคำร้องขอวีซ่าประเภทนี้ได้)
10. ประกันภัยการเดินทาง ออกโดยบริษัทยุโรปหรือ บริษัทประกันที่ได้รับการรับรอง (สำเนา) สามารถเช็คได้กับเว็บไซต์ของสถานทูต แนะนำว่า ไม่ควรซื้อ การบริการหรือประกันจากบุคคลหรือบริษัทที่ไม่มีใบอนุญาต
10.1. ประกันภัยการเดินทางควร
- สามารถใช้ได้เมื่อสมัครวีซ่าแบบพำนักระยะสั้นในประเทศเขตเชงเก้น
- สามารถใช้ได้เมื่อเดินทางเข้าเขตการปกครองโพ้นทะเลของประเทศฝรั่งเศส (DROM หรือCTOM)
10.2. ประกันภัยการเดินทางต้องครอบคลุมถึงค่ารักษาพยาบาลและการส่งตัวกลับ ซึ่งวงเงินประกันต้องมากกว่า
30,000 ยูโร (หรือประมาณ 1.5 ล้านบาท)
10.3. ประกันภัยการเดินทางต้องครอบคลุมตลอดระยะเวลาที่พำนักอยู่ที่ประเทศเขตเชงเก้น
11. สำเนาการจองโรงแรม (จองผ่านทางอินเตอร์เนตโดยไม่ได้รับรองบัตรเครดิตไม่สามารถนำมาเป็นหลักฐานได้)
12. หนังสือรับรองการให้ที่พัก ออกโดยศาลากลางท้องถิ่นของบุคคลที่จะ ไปพำนักด้วยตลอดระยะเวลาที่พำนัก (ฉบับจริง + สำเนา)
13. ใบรับรองความเป็นเจ้าของทรัพย์สิน หรือสัญญาเช่า หรือหนังสือจากเจ้าบ้านที่พักในประเทศฝรั่งเศส
14. สมุดบัญชีแสดงรายการเดินบัญชีครอบคลุมระยะเวลา 3 เดือนล่าสุด
รายการเดินบัญชีครอบคลุมระยะเวลา 3 เดือนล่าสุด ออกโดยธนาคารฉบับจริง และสำเนา พร้อมตราประทับ
หนังสือรับรองบัญชี ออกโดยธนาคาร ฉบับแปล (ต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษ) พร้อมตราประทับ
15. หนังสือรับรองการทำงาน (ฉบับจริง) หนังสือรับรองการทำงานจากนายจ้าง ระบุชื่อ และตำแหน่งของผู้ยื่น เงินเดือน สิทธิ์ในการลา และระบุถึงบุคคลที่มีหน้าที่รับผิด ชอบทางด้านการเงินตลอดระยะเวลาที่ผู้ยื่นพำนักอยู่ ซึ่งในเอกสารฉบับนี้ต้องระบุ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์และหมายเลขแฟกซ์ของนายจ้าง ตราประทับของบริษัท ลายเซ็น พร้อมระบุชื่อและตำแหน่งของผู้ออกหนังสือฉบับนี้ หนังสือรับรองการทำงาน ฉบับแปล (ต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษ)
16. หนังสือรับรองเงินเดือน (ต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษ) พร้อมตราประทับของบริษัท
17. สลิปเงินเดือน 3 เดือนล่าสุด (สำเนา)
สลิปเงินเดือน 3 เดือนล่าสุด ฉบับแปล (ต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษ)
18. ค่าวีซ่า ปัจจุบัน (เมษายน 2553) อยู่ที่ 60 ยูโร ซึ่งจะต้องสอบถามสถานทูตอีกครั้ง หากชำระเป็นเงินบาท ซึ่งราคาจะเปลี่ยนแปลงไปตามอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งสถานทูตจะแจ้งให้ทราบ โดยจะต้องเตรียมเงินให้ครบพอดีจำนวน เพราะเวลายื่นเจ้าหน้าที่จะไม่มีการทอนเงิน
กฎระเบียบของ Schengen อื่นๆที่ควรทราบ
· จะต้องเผื่อเวลาสำหรับการยื่นขอวีซ่า แนะนำว่าควรจะเริ่มทำวีซ่าล่วงหน้าอย่างน้อย 2 เดือน เผื่อกรณีที่วีซ่า ติดปัญหา และต้องส่งเอกสารเพิ่มเติมจะได้มีเวลาทัน หรือหากต้องมีการปรับตาราง ทัวร์อันเนื่องมาจากเห็นผลอันใดก็แล้วแต่ จะได้มีเวลาพอ
· หากได้มีการพำนักอยู่ใน Schengen เป็นระยะเวลา 3 เดือน หรือมากกว่า, การที่จะขอวีซ่าเข้าประเทศในกลุ่ม Schengen ได้อีกครั้งหนึ่ง นั้นจะต้องรอเป็นเวลา 3 เดือน ก่อนที่จะขอใหม่ได้
· หากผู้ที่ต้องการขอวีซ่า Schengen เป็นบุคคลสัญชาติอื่นแต่อาศัยอยู่ในประเทศไทย บุคคลนั้นๆจะต้องแสดงให้เห็นถึงตราประทับให้กลับมายังประเทศไทยอีกครั้ง (Re-entry or Multiple entries)
· ค่าธรรมเนียมในการขอวีซ่าจะเปลี่ยนแปลงทุกเดือนตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ ควรจะตรวจสอบค่าธรรมเนียมที่ถูกต้องตามลักษณะวีซ่าของท่านในวันที่มาขอวีซ่า
· โดยปรกติแล้ว วีซ่า Schengen ที่ออกให้บุคคลจะมีระยะเวลาไม่เกิน 90 วัน ระยะเวลาในการพิจารณาประมาณ 7 วันทำการ
· บางสถานทูตอย่างเช่น สถานทูตสวิส ผู้ที่มาขอวีซ่าต้องมาดำเนินการด้วยตนเองและต้องแนบเอกสารประกอบการขอวีซ่ามาให้ครบถ้วน เนื่องจากเอกสารที่ไม่ครบถ้วนหรือการกรอกแบบฟอร์มที่ไม่ถูกต้อง หรือไม่ครบถ้วนอาจส่งผลให้การขอวีซ่าถูกปฏิเสธได้ และหากต้องการยื่นเรื่องใหม่ภายหลังที่ถูกปฏิเสธไปแล้ว จะต้องแนบเอกสารประกอบการพิจารณามาใหม่ทั้งหมด*
สถานทูตฝรั่งเศส
เว็บไซต์: http://www.ambafrance-th.org/
ในการขอวีซ่า ฝรั่งเศส ตอนนี้ ทาง สถานทูตได้มอบหมายให้ TLScontact ( https://www.tlscontact.com/ ) เป็นผู้ดำเนินการแทน ดังนั้นจะต้องเข้าไปทำการนัดหมายผ่านทางเว็บไซต์ ของ TLScontact ซึ่งเอกสารดำเนินการจะเหมือนกัน แต่จะมีค่าใช้จ่ายที่เป็นค่าธรรมเนียมของ TLScontact อีก 1,200 บาท เพิ่มจากค่าขอวีซ่า อีกที ดังนั้น ขึ้นอยู่กับความสะดวก และ แผนการเดินทางของคุณ แต่สำหรับทริปนี้ ทางผู้เขียนจัดให้พักอยู่ที่สวิสเซอร์แลนด์นานที่สุด จึงแนะนำให้ไปขอวีซ่าที่สถานทูตสวิส ซึ่งทำให้ประหยัดได้อีก 1,200 บาท
สถานทูตสวิสเซอร์แลนด์
เว็บไซต์: http://www.eda.admin.ch/
คุณจะต้องโทรไปนัดหมาย ล่วงหน้าได้ที่เบอร์ 1900-222-340 นาทีละ 9 บาท และการขอวีซ่า จะต้องเดินทางไปด้วยตนเองช่วงเช้าจะเป็นเวลาสำหรับการยื่นขอวีซ่า ตั้งแต่ 09:00-11:30 และในช่วงบ่าย ตั้งแต่ สำหรับ ติดต่อเพื่อขอรับวีซ่า เท่านั้น
สถานทูต ตั้งอยู่บนถนนวิทยุ ใกล้แยกเพลินจิต ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพ การเดินทางสามารถไปด้วยรถไฟฟ้า BTS แล้วลงสถานี เพลินจิต
สำหรับสถานทูตอิตาลี
เว็บไซต์: http://www.ambbangkok.esteri.it/
สามารถโทรไปจองวันนัดเข้ายื่นวีซ่า ได้ที่เบอร์ 1900-222-344 โดยสามารถนัดล่วงหน้าได้ไม่เกิน 1 เดือน และหากเลยวันที่นัดไปแล้ว จะต้องทำการโทรนัดใหม่อีกครั้ง
สามารถนัดหมายเวลาเพื่อขอยื่นวีซ่า ได้ในเวลา
8:00-20:00 น. วันจันทร์ – วันศุกร์ ในช่วง 1 มีนาคม – 31 ตุลาคม
8:00-17:00 น. วันจันทร์ – วันศุกร์ ในช่วง 1 พฤศจิกายน – 28 กุมภาพันธ์
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) สำหรับการยื่นขอวีซ่า จะสามารถดำเนินการได้ตั้งแต่วันจันทร์ –ศุกร์ เวลา: 9:00 – 13:00 ส่วนการรับวีซ่า สามารถดำเนินการได้ตั้งแต่เวลา : 14:30 – 15:30
สามารถนัดหมายเวลาเพื่อขอยื่นวีซ่า ได้ในเวลา
8:00-20:00 น. วันจันทร์ – วันศุกร์ ในช่วง 1 มีนาคม – 31 ตุลาคม
8:00-17:00 น. วันจันทร์ – วันศุกร์ ในช่วง 1 พฤศจิกายน – 28 กุมภาพันธ์
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) สำหรับการยื่นขอวีซ่า จะสามารถดำเนินการได้ตั้งแต่วันจันทร์ –ศุกร์ เวลา: 9:00 – 13:00 ส่วนการรับวีซ่า สามารถดำเนินการได้ตั้งแต่เวลา : 14:30 – 15:30
วีซ่าอียิปต์
สถานทูตอียิปต์
ใช้เวลาดำเนินการ 3วันทำการ (อาจจะมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับเอกสารในการยื่นวีซ่า และการพิจารณาของสถานทูต)
ค่าธรรมเนียมวีซ่า : วีซ่าประเภทท่องเที่ยว แบบเข้า-ออก ครั้งเดียว 1,500 บาท/ท่าน
สำหรับเอกสารประกอบการยื่นคำร้อง
1. หนังสือเดินทาง ต้องมีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือน (สำหรับท่านที่มีหนังสือเดินทางเล่มเก่า กรุณานำมาประกอบการยื่นวีซ่าด้วยเพื่อความสะดวกในการพิจารณาวีซ่าของท่านและหนังสือเดินทางต้องมีหน้าเหลืออย่างน้อย 2 หน้า)
2. รูปถ่ายปัจจุบัน หน้าตรง 2 นิ้ว จำนวน 2 ใบ พื้นหลังสีขาวเท่านั้น (ควรใช้รูปสีถ่ายมาตรฐานไม่เกิน 6 เดือน ซึ่งขยายจากฟิล์มเท่านั้น รูปถ่ายจากกล้องแบบโพลาลอยด์ และหรือ ถ่ายแบบสติ๊กเกอร์ใช้ไม่ได้) และกรุณาเขียนชื่อ-นามสกุลตัวบรรจงไว้ด้านหลังรูป
3. หลักฐานการเงิน สำเนาสมุดเงินฝากส่วนตัวของผู้เดินทาง ตั้งแต่หน้าแรกจนถึงหน้าปัจจุบัน (ย้อนหลัง 6 เดือนและปรับยอดสมุดเงินฝากให้เรียบร้อยก่อนถ่ายสำเนา) พร้อมตรารับรองของธนาคาร *** สถานฑูตฯ อาจขอดูสมุดเงินฝากเล่มจริงของท่าน
4. หลักฐานการทำงานพร้อมตราประทับของบริษัท (ภาษาอังกฤษและเป็นหลักฐานปัจจุบันเท่านั้น)
5. หนังสือรับรองการทำงานจากบริษัทฯ ระบุตำแหน่ง, เงินเดือน, วันเริ่มทำงาน และ ช่วงเวลาที่อนุมติให้ลาหยุด (แปลเป็นภาษาอังกฤษ)
6. กรณีเป็นเจ้าของกิจการ สำเนาใบทะเบียนการค้าและหนังสือรับรองการจดทะเบียนที่มีชื่อของผู้เดินทางเป็นกรรมการหรือหุ้นส่วน พร้อม ทั้งเซ็นชื่อรับรองสำเนาและประทับตราบริษัทฯ (อายุสำเนาไม่เกิน 3 เดือน)
7. กรณีเป็นนักเรียนหรือนักศึกษา (ภาษาอังกฤษและเป็นหลักฐานปัจจุบันเท่านั้น) หนังสือรับรองจากทางโรงเรียนหรือสถาบันที่กำลังศึกษาอยู่ และสำเนาบัตรนักศึกษาพร้อมทั้งเซ็นชื่อรับรองสำเนา (ใช้ทั้ง 2 อย่าง)
8. เอกสารอื่นๆ สำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาบัตรประชาชน หรือสำเนาใบสูติบัตร และสำเนาใบเปลี่ยนชื่อ (ถ้ามี) กรุณาเซ็นชื่อรับรองสำเนาเอกสาร
9. กรณีที่เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ไม่ได้เดินทางพร้อมบิดามารดาหรือคนใดคนหนึ่ง จะต้องไปทำหนังสือยินยอมให้เดินทางไปต่างประเทศจากอำเภอหรือเขตที่ท่านอยู่ โดยระบุชื่อผู้ที่เด็กเดินทางไปด้วย
10. ถ้าเด็กอยู่ในความปกครองของบิดาหรือมารดาเพียงคนเดียว จะต้องมีหลักฐานรับรองว่าเด็กอยู่ภายใต้การปกครองของผู้นั้น เช่น สำเนาใบหย่า พร้อมทั้งบันทึกการหย่าซึ่งแสดงว่าเป็นผู้รับผิดชอบเด็ก
11. ถ้าเด็กอยู่ในความปกครองของผู้อื่น จะต้องมีหลักฐานรับรองว่าเด็กอยู่ภายใต้การปกครองของผู้นั้น เช่น หนังสือรับรองบุตรบุญธรรม
12. กรณีเป็นผู้สูงอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป จะต้องมีใบรับรองแพทย์ ออกโดยโรงพยาบาล โดยระบุว่า “สุขภาพร่างกายแข็งแรง สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้” และใบประกันสุขภาพการเดินทางสำหรับผู้สูงอายุ (ค่าใช้จ่ายในการทำประกันสุขภาพการเดินทางสำหรับผู้สูงอายุ ไม่ได้รวมอยู่ในค่าบริการ) ในกรณีนี้ทางสถานทูตฯ อาจจะต้องการให้มีการตรวจสุขภาพเพิ่มเติม ซึ่งขึ้นอยู่ในดุลยพินิจของสถานทูตฯ
13. กรณีสมรสแล้ว ต้องยื่นสำเนาทะเบียนสมรส,สำเนาใบหย่า หรือ สำเนาใบมรณะบัตร (กรณีคู่สมรสเสียชีวิต) พร้อมทั้งรับรองสำเนาด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น