ลัลล้า @ ยุโรป (ตอนที่ 6: ซื้อตั๋วล่วงหน้า)

สิ่งสำคัญถัดมาหลังจากที่ได้ทำการจัดตารางทัวร์เรียบร้อย ก็คือ เรื่องการซื้อตั๋วล่วงหน้า สำหรับการเดินทางทริปนี้ หลังจากที่ได้วีซ่า เรียบร้อย แล้ว ย้ำ ว่า ควรจะได้วีซ่า แล้วนะ (เนื่องจากตั๋วที่แนะนำเป็นแบบประหยัด และต้องจองล่วงหน้าจึงจะได้ส่วนลดพิเศษ แต่จะมีข้อเสียคือไม่สามารถ refund หรือคืนเงินได้)

รายการตั๋วที่ควรจะซื้อล่วงหน้ามีดังนี้

1 ตั๋ว Swiss Pass 

เป็นตั๋วที่ใช้เดินทางในสวิส ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งรถไฟ รถเมล์ รถราง เรือ รวมถึงสามารถใช้เป็นส่วนรถสำหรับรถกระเช้า ขึ้นเขา ได้อีกกว่า 50% จากราคาปกติ  ตั๋วสวิสพาสแบ่งออกเป็นหลายประเภท และหลายราคาโดยจะยกตัวอย่างคร่าวๆดังนี้

1.1 Swiss Pass คือตั๋วที่จำหน่ายในราคาปกติ มีสิทธิพิเศษตามประกาศของการรถไฟสวิส โดยตั๋วจะมีทั้งแบบ 4  วัน 8 วัน16 วัน ซึ่งจะต้องใช้งานต่อเนื่องกัน (Continuous) นับตั้งแต่วันที่ตั๋วเริ่มแสตมป์

1.2 Swiss Pass Saver ถ้าหากผู้โดยสาร หรือกลุ่มเดินทางของคุณที่จะเดินทางมีมากกว่า 1 คนขึ้นไปสามารถซื้อตั๋วประเภทนี้ ได้ ซึ่งจะมีราคาถูกกว่าการซื้อตั๋วปกติ 15% แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องเดินทางพร้อมกัน ทั้งหมด ไม่สามารถแยกได้

1.3 Swiss Youth Pass เป็นตั๋วพิเศษสำหรับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 26 ปี จะสามารถซื้อตั๋ว ในราคาที่ถูกกว่า ปกติอีก 25%

1.4 Swiss Travel Family Card สำหรับเด็กที่อายุต่ำกว่า 16 ปีสามารถเดินทางได้ฟรี แต่มีเงื่อนไข คือต้องเดินทางกับ พ่อ หรือแม่ คนใดคนหนึ่ง

สำหรับ ตั๋วอีกประเภทหนึ่งที่อยากจะขอกล่าวถึง คือ ตั๋ว Swiss Flexi Pass เป็นตั๋วที่สามารถระบุวันที่จะใช้งานได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้งานต่อเนื่องเหมือนตั๋ว Swiss Pass ทั่วไป เหมาะสำหรับคนที่มีแผนว่าจะเลือกใช้งาน เป็นบางวัน แต่ราคาจะสูงกว่า แบบธรรมดาที่เป็น แบบ ต่อเนื่อง สำหรับในทริปนี้แนะนำให้ซื้อตั๋ว Swiss Pass 4 day Continuous คือ ตั๋วเดินทางประเภท ติดต่อกัน 4 วันราคาตั๋วสามารถเช็คได้จากเว็บไซต์ (http://www.swisstravelsystem.ch/ )

ชั้น / ราคา หน่วย CHF	Swiss Pass	Swiss Pass Saver	Swiss Youth Pass
2nd Class
4วัน	260	221	195
8วัน	376	320	282
15วัน	455	387	342

ตารางราคาตั๋วรถไฟ Swiss Pass

ส่วนใหญ่การท่องเที่ยวสวิสมักจะมาโปรโมท ในงานท่องเที่ยว ที่เมืองไทย ซึ่งอาจจะมีโปรโมชั่น พิเศษ อาทิ free upgrade ตั๋ว จากชั้น 2 เป็นชั้น 1 ฟรี อีกทั้งราคาก็จะถูกกว่าการไปซื้อที่ประเทศสวิสเอง หรือผ่านทางเว็บไซต์

2.ตั๋วรถไฟ TGV

         สำหรับใครที่เคยดูรายละเอียดในทัวร์ ประเทศฝรั่งเศส ก็มักจะมีหนึ่งในทริปคือการนั่งรถไฟ TGV หรือรถไฟความเร็วสูงของฝรั่งเศส ให้บริการโดย SNCF ที่มีความเร็วถึง 320 กม./ชม.และรุ่นใหม่ซึ่งถือเป็นรถไฟที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก ด้วยความเร็ว 581 กม./ชม. ในทริปพิเศษ นี้ ก็เลยอยากจะแนะนำให้ลองนั่งดู ตัวอย่าง เส้นทางที่เราจะจองจะเริ่มออกเดินทางจากเมือง Paris ประเทศฝรั่งเศส ไปยัง เมือง Zurich ประเทศสวิส วิธีการจองมีดังนี้

2.1 เข้าไปยังเว็บไซต์ http://www.voyages-sncf.com/

2.2 ในหน้าแรก ทางด้านซ้ายมือ สังเกตุว่าจะมีให้เลือก train ในช่อง De’part  เลือก Paris  ในช่อง Arrive’e พิมพ์ zurich  ในช่องวันที่ Aller le เลือก วันที่จะเดินทาง  ส่วนช่อง a partir de คือเลือกช่วงเวลาที่จะเดินทาง 08h คือจะออกเดินทางช่วง 8 โมงเช้า ถึง 9 โมงเช้า เลือก classe ที่จะเดินทาง เลือก 2e classe (ชั้น 2 ราคาประหยัด) จากนั้นคลิกปุ่ม Rechercher เพื่อเช็คตารางเวลารถไฟ

2.3 เลือกเวลา ที่เราสะดวก โดยในตัวอย่างเลือกที่ 8h 24 คือเวลา 8:24   ออกจากสถานี PARIS EST หรือก็คือสถานี Gare d’Est  ถึงที่ สถานี Zuerich HB เวลา 13h00 หรือก็คือเวลา 13:00 บ่ายโมง นั่นเอง เมื่อเลือกได้แล้ว คลิก Valider cet aller

2.4 จะขึ้นหน้าต่างเพื่อ Confirm อีกครั้ง ในส่วน L’Assurance หากต้องการซื้อประกันการเดินทาง แต่สำหรับเราได้มีการทำประกันการเดินทางไว้แล้วตอนทำวีซ่า เลือกที่ Non ในหน้านี้จะมีราคารวมทั้งหมดที่ต้องจ่ายเป็น ยูโร เมื่อเช็คเรียบร้อยแล้วกด Valider votre reservation

2.5 ในหน้าถัดมาจะเลือกวิธีการรับตั๋ว เพราะเมื่อเราจองเรียบร้อย จะต้องพิมพ์ใบจองไปด้วย เพื่อไปรับตั๋วจริงที่สถานีรถไฟ  หากเลือกที่ Borne Libre Service เป็นการรับตั๋วที่เครื่องรับตั๋วอัตโนมัติ ซึ่งก็ไม่ยากลำบากอะไร แต่หากไม่ถนัด ก็ให้เลือก ที่ Gare ou boutique เป็นการติดต่อรับตั๋วที่เคาเตอร์บริการ ซึ่งก็เพียงแค่ยื่นใบจองที่เราพิมพ์มา เจ้าหน้าที่ก็จะจัดการให้ ในส่วนที่ 2 Indiquez ให้ทำการใส่ข้อมูลส่วนตัว คือ ชื่อ (Nom) นามสกุล (Prenom) และ email เพื่อรับจดหมาย confirm  แล้วคลิก Valider votre commande

2.6 ในส่วนถัดไปจะต้องเลือกวิธีการชำระเงิน ซึ่งจะต้องใช้บัตรเครดิต ใส่ข้อมูลเรียบร้อย แล้วก็ตกลงได้เลย ซึ่งทางเว็บไซต์จะจัดส่งข้อมูลมาให้ทางอีเมล์ที่ได้แจ้งไว้  

2.7 ทำการพิมพ์ข้อมูลในหน้า confirm จะมีแจ้งและพกไปด้วยก่อนเดินทาง 

Tip ยิ่งจองตั๋วล่วงหน้า นานเท่าไหร่ ราคาตั๋วจะยิ่งถูก แต่ควรจะแน่ใจก่อนว่าวีซ่าผ่านเรียบร้อย และวางทริปการเดินทางให้เรียบร้อย

3. ตั๋วรถไฟ

การซื้อตั๋วรถไฟประเทศ สวิส

ในทริปของเราช่วงเดินทางในประเทศสวิส ปกติจะใช้ตั๋ว Swiss Pass ตามที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้า แต่ในวันที่จะเดินทางออกจากประเทศสวิสเพื่อเข้าไปยังประเทศอิตาลีนั้น เราจะต้องนั่งรถไฟไปที่เมือง Brig ซึ่งเป็นชายแดนของประเทศสวิสเสียก่อนเพราะไม่ต้องเสียค่าเดินทาง (ใช้ Swiss Pass) แล้วจึงค่อยซื้อตั๋ว จาก brig เข้าไปยังอิตาลี ซึ่งในทริปนี้เราวางแผนเดินทางจาก Brig ไปยัง Venice 

ตัวอย่างจะเป็นการซื้อตั๋วรถไฟจาก brig ประเทศสวิส ไปลงที่ domodossola ประเทศอิตาลี เนื่องจากตั๋วที่วิ่งตรงไป Venice เลยนั้นอาจจะเต็ม

3.1 เข้าไปยังเว็บไซต์ของ SBB  (http://www.sbb.ch/en/) กรอกข้อมูลต้นทางในช่อง  From ให้พิมพ์ brig  และ ในช่อง To ให้เลือก Domodossola เลือกวันและ เวลาที่ต้องการ แล้วกด Fare/Buy

 3.2 หากหน้าจอถามว่า จะนั่ง Direct หรือ via Bus Pag ให้เลือก Direct เพื่อเลือกว่าเราจะวิ่งตรง

 3.3 เลือกประเภทของการเดินทาง ให้เลือก 2^nd Class  Type of Travel เป็น One way เพราะเราเดินทางเที่ยวเดียว แล้วกด Select

3.4 หากขึ้นให้ใส่ Username และ Password ผู้ที่เคยลงทะเบียนกับเว็บไซต์ไว้แล้ว ก็ให้ใส่ข้อมูลเข้าไป แต่หากยังไม่เคยก็สามารถเลือกที่ Buy Ticket without logging in แล้วกด Next

 3.5 ให้ใส่ชื่อ และวันเดือนปีคศ.เกิด ซึ่งวิธีการใส่เป็น [DD.MM.YYYY] และหากมีผุ้โดยสารมากกว่า 1 คน ก็ให้คลิกที่ Additional passengers แล้วเพิ่มชื่อลงไป เสร็จแล้วคลิก Next ด้านล่างสุด

 3.6 หน้าต่างจะปรากฏข้อความให้เช็คอีกครั้ง ดูว่าถูกต้องหรือไม่ ถ้าถูกต้องแล้วกด Check out

 3.7 ในหน้าต่างนี้ จะให้ใส่ข้อมูลส่วนตัว ซึ่งหากเคย ลงทะเบียนไว้แล้ว จะไม่ปรากฏหน้าต่างนี้ ทำการใส่ข้อมูลของเราแล้วกด Next

 3.8 เลือกประเภทของบัตรเครดิต เช่น Visa ใส่ข้อมูลให้เรียบร้อย รวมถึง email address แล้วกด Purchase

 3.9 ถ้าหากข้อมูลบัตรเครดิตถูกต้อง ระบบจะขึ้นมา confirm ข้อมูล และส่ง e-ticket ไปที่ email address ที่คุณได้กรอกไว้ ให้พิมพ์ลงกระดาษ A4 เพื่อใช้สำหรับการเดินทางของเราต่อไป

การซื้อตั๋วรถไฟประเทศอิตาลี

รถไฟของอิตาลี นั้น มีผู้โดยสารเยอะมากโดยเฉพาะ เส้นทางข้ามประเทศหรือข้ามหัวเมืองต่างๆดังนั้น ควรจะจองที่นั่งล่วงหน้าตั้งแต่อยู่เมืองไทยเพราะถ้าไปซื้อตั๋วที่นู่นราคาแพงกว่า จากตัวอย่างจะเป็นการซื้อตั๋วรถไฟเพื่อเดินทางจากสถานี Domodossola ไปยังเมือง Venice นอกจากนี้ยังควรจะซื้อตั๋วล่วงหน้าสำหรับเดินทางไปฟลอเรนส์ และ โรม ด้วย

 รถไฟ InterRail หรือ InterCity

รถไฟ อิตาลี EuroStar City

1. เข้าไปยังเว็บไซต์ของการรถไฟ อิตาลี (www.italiarail.com/)

2. ในช่อง From ให้ใส่สถานีต้นทาง คือ Domodossola และในช่อง To ให้ใส่ Venice ในช่อง When do you want to leave? ให้ใส่เลือกวันที่ต้องการเดินทาง สำหรับช่องของ hour คือให้ใส่เวลาที่เราต้องการเดินทาง ในตัวอย่างคือ เวลาช่วง 8 โมงเช้า  จากนั้นกด Send

3.จะปรากฏตารางรถไฟ ที่มีอยู่หลายช่วงเวลา และหลายแบบ ให้สังเกตทีละช่องดังนี้

Departure                  คือช่วงเวลาที่ออก เนื่องจากช่วงเวลาที่เราต้องการคือ 8 โมง ไม่มี ดังนั้นคุณจะต้องวางตารางเวลา

                                      ให้ดีสำหรับการเดินทาง

Arrival                         คือเวลาที่จะเดินทางถึงปลายทาง

Length of Journey     คือเวลาที่ใช้เดินทางทั้งหมด

Change Station          คือชื่อสถานี ที่จะต้องต้องเปลี่ยนขบวน หากไม่มี แสดงว่า นั่งต่อเดียวถึงเลย

Train no                        คือหมายเลขของขบวนรถไฟ

Train Category          คือชนิดของรถไฟ ซึ่งมีหลายประเภท อาทิ IR (Inter Rail) เป็นรถไฟที่วิ่งภายในประเทศ ช้า แต่    

                                       ราคาจะถูกกว่า รถไฟ ES (EuroStar) มีความเร็วสูง แต่ราคาก็จะสูงตามไปด้วย

                1^st class  ราคาสำหรับตั๋วนั่งรถไฟชั้น 1

                2^nd class ราคาสำหรับตั๋วนั่งรถไฟชั้น 2

 ให้เลือกประเภท และเวลาที่ต้องการ หรือเหมาะสม (สิ่งสำคัญที่ต้องทราบใน Italy คือ รถไฟที่นี่ไม่เหมือนใน สวิส เวลาการเดินทางส่วนใหญ่จะไม่ตรงตามเวลาที่ระบุในตารางส่วนใหญ่จะช้า และมักจะมี Delay บ่อยมาก ดังนั้น ต้องเผื่อเวลาในการเดินทางไว้ด้วย ถ้าจำเป็นต้องมีการต่อรถไฟ ก็ควรจะเผื่อเวลาไว้เสมออย่าซื้อตั๋วที่เวลาชนกันจนเกินไป)

4. จากตัวอย่างเราเลือกตั๋วชั้นประหยัด ต่อเดียว ถ้าหากว่า เราทำการจองตั๋วล่วงหน้า ทางเว็บการรถไฟ อิตาลี ก็มีส่วนลดให้ สำหรับค่าตั๋ว อาทิ 15% (Meno15) สำหรับจองล่วงหน้า 7 วัน หรือ 30% (Meno30) สำหรับจองล่วงหน้า 14 วันเป็นต้น หากซื้อตั๋วมากกว่า 1 ใบก็ให้เลือก จำนวนในหน้านี้ได้เลย โดยคลิกที่ Adult แล้วเลือกจำนวนในส่วนของ Journal Preferences จะมีลิสต์ให้เลือกในส่วนของ Seats description นั่นคือจะเลือกที่นั่งตรงไหน ถ้าหากเลือก window ก็คือที่นั่งริมหน้าต่าง

หากมีเพื่อนที่ซื้อตั๋วไว้ล่วงหน้าแล้ว และต้องการได้ที่นั่งใกล้กัน ก็สามารถระบุ ตู้โดยสาร (coach) และ เลขที่นั่ง Seat ของเพื่อน ระบบก็จะทำการเลือกที่นั่งใกล้เคียงให้ ถ้ายังว่างอยู่ จากนั้นกด Continue

* ถ้าหากว่า หลังจากที่เลือก Fare เรียบร้อยแล้ว ด้านล่างจะมี สัญลักษณ์ปรากฏขึ้นหากเป็น สีเขียว และเขียนว่า Seats availability for the selected fare/service  แสดงว่า ตั๋วที่เราเลือก มีที่นั่งว่าง สามารถซื้อได้ ซึ่งพวกตั๋วส่วนลด ก็จะหมดเร็วกว่าประเภทอื่นๆ  หากเป็นสีแดงแสดงว่าตั๋วเต็มแล้ว 

5. ในหน้าถัดมา ระบบจะให้กรอก Ticket Heading ให้ใส่ชื่อผู้โดยสาร เข้าไป ในส่วนของ ticket delivery ผู้เขียนแนะนำให้เลือกเป็นแบบ Ticket less with payment via email นั่นหมายความว่า เราสามารถที่จะพิมพ์ตั๋วแล้ว นำไปขึ้นรถไฟได้เลย ไม่ต้องไป Stampเวลาที่สถานี เพียงแต่ขึ้นให้ถูกขบวนเท่านั้นเอง ส่วนใบเสร็จหลังจากเราจองตั๋วแล้วจะส่งมาให้ทาง email

ในส่วน To buy, please authenticate yourself

หากเรายังไม่เคยสมัคร (register ) เว็บไซต์การรถไฟ อิตาลี ให้คลิกที่ register now แล้วลงทะเบียนก่อน หากเคยสมัครแล้วใส่ Username และ password แล้วกด Continue ได้เลย

6.  ในหน้าสุดท้ายเป็นการ confirm ข้อมูลทั้งหมด ซึ่งเราสามารถที่จะจองตั๋วไว้ก่อน ได้โดยยังไม่ต้องชำระเงิน แต่ตั๋วจะจองไว้ได้แค่ 24 ชั่วโมงเท่านั้น หากเกิน 24 ชม.ก็จะต้องเริ่มทำการจองใหม่ทั้งหมด หากตกลงใจจะชำระเงิน ก็ให้เลือกที่ Payment โดยคลิกที่ Credit Card or Prepaid

7.  จะเป็นหน้าต่างขึ้นมาให้ใส่ข้อมูลบัตรเครดิต หลังจากเรียบร้อย ก็ให้กด OK แล้วระบบจะยืนยัน โดยส่งมาให้ทางอีเมล์

8. รูปร่างหน้าตาของตั๋วรถไฟแบบ Ticketless ของ การรถไฟอิตาลี

4. ตั๋วเที่ยวเข้าชม ต่างๆ

ตั๋วเข้าชม พิพิธภัณฑ์สำคัญๆ , ตั๋ว เข้าสวนสนุก Disney Land , ตั๋วขึ้นหอคอยไอเฟล ที่แนะนำให้ซื้อล่วงหน้าเนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวพวกนี้ หากไม่ทำการซื้อตั๋วล่วงหน้า แล้วไปรอซื้อที่หน้าประตู จะทำให้เสียเวลาเป็นอย่างมาก ซึ่งบางครั้งอาจจะต้องยืนรอคิวถึง 2 ชั่วโมงจนตะคริวกินกันไปข้างนึง

ตั๋ว DisneyLand (http://www.disneylandparis.com/) หากซื้อตั๋วล่วงหน้า ส่วนใหญ่จะมีส่วนลดพิเศษอีก 15% จากราคาตั๋วปกติ

พระราชวังแวร์ซายน์ (http://www.chateauversailles.fr ) ยังไม่สามารถจองผ่านเว็บไซต์ได้ แต่สามารถที่จะไปซื้อตั๋วได้จาก Agency ก่อนเข้าพระราชวัง หากไม่ต้องการต่อคิวยาว

พิพิธภัณฑ์ลูฟ (http://www.louvre.fr) ปัจจุบันยังไม่สามารถซื้อตั๋วล่วงหน้าจากเว็บไซต์ได้โดยตรง อาจลองหาข้อมูลจาก Agency หรือถ้าใครซื้อตั๋ว Museum Pass ก็สามารถเข้าได้เลย ช่วยลดเวลาต่อคิว

ตั๋วขึ้นหอคอยไอเฟล ( http://www.tour-eiffel.fr/ ) การจองตั๋วที่นี่ จะต้องระบุเวลาด้วย ดังนั้น ต้องวางแผนให้ดี เพราะหากไปไม่ทันเวลาที่จองไว้ เจ้าหน้าที่จะปล่อยตั๋วทันที ให้กับคนที่ยืนรออยู่

5. จองทัวร์ Day Trip  

ในทริปนี้พ่วงเที่ยวประเทศอียิปต์ให้ด้วย 1 วัน จึงขอแนะนำให้จองตั๋ว Day Trip ไว้ สำหรับที่ประเทศ อียิปต์เนื่องจากว่าการเดินทางโดยรถโดยสาร หรือ รถไฟเองอาจจะไม่สะดวก แต่หากใช้บริการ Local Tour จะช่วยให้ประหยัดเวลา และสามารถที่จะไปเที่ยวสถานที่สำคัญๆ ได้สะดวกยิ่งขึ้น

ขั้นตอนการจองตั๋วผ่าน Agency

จองผ่านเว็บไซต์ Viator (www.viator.com) เว็บไซต์ที่ดีเว็บหนึ่ง เพราะส่วนใหญ่จะมีบริการรับที่โรงแรม อีกทั้งยังมี การ review ของผู้ที่เคยใช้บริการมาแล้ว ทำให้เรามั่นใจได้ส่วนหนึ่งว่า ทัวร์ที่เราเลือกปลอดภัย และคุ้มค่ากับเงินที่จะเสียไป

1.      ทำการเลือกประเทศ Egypt และเมือง เป็น Cairo  เสร็จแล้วเลือกช่วงวันที่จะเดินทาง แล้วกด Go

        2.      หน้าต่างจะแสดงรายชื่อทัวร์ที่มี ในเมืองนั้นๆ ซึ่งสำหรับ กรุงไคโร ประเทศ อียิปต์ จะมีอยู่หลาย Trip ด้วยกัน สำหรับทริปที่แนะนำสำหรับ 1 วันคือ Giza Pyramids, Shpinx, Egyptian Museum และ Khan el-Khalili Bazaar สำหรับรายละเอียดทัวร์จะขอเล่าในส่วนของประเทศอียิปต์  กด Check dates 

4.   เมื่อเลือกแล้ว จะแสดงรายละเอียดของทัวร์นั้นๆ ซึ่งสำหรับทริปนี้ จะเห็นว่า Duration คือเวลาที่ใช้สำหรับทัวร์นี้จะอยู่ที่ 6-8 ชั่วโมง ซึ่งไม่มากและน้อยจนเกินไป ในหน้าต่างด้านขวามือ จะมีช่องให้ระบุวันเดินทาง ในช่อง Select a date และจำนวนผู้ร่วมเดินทางในช่อง Enter total number of travelers  จากนั้นกด Confirm Availability

 5. ในหน้าถัดมา ระบบจะมีรายละเอียดปลีกย่อย หากต้องการบริการเสริม อาทิ นั่งชมเรือ หรือ อาหารกลางวัน  ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกัน แต่แค่นำเที่ยวตามที่เราเลือกก็เพียงพอแล้ว ดังนั้นเลือก Tour Only แล้วกด Add to cart

6. ในหน้าต่าง Shopping Cart จะแสดงรายละเอียดของทัวร์ที่เราเลือกไว้เมื่อซักครู่ ซึ่งหากเคยใช้บริการมาก่อนจะได้รับหมายเลข promotion code เพื่อรับส่วนลดในครั้งต่อไป  ถ้าไม่มีให้กด Proceed to checkout

7. ระบบจะให้กรอกรายละเอียดส่วนตัวของผู้เดินทาง และผู้ร่วมเดินทาง ในส่วนของ Traveler Detail  และกรอกข้อมูลที่อยู่ รวมถึง Email เพื่อติดต่อในส่วนของ Contact Detail และในส่วนสุดท้ายสำคัญมากคือ Tour & Activity Detail จะมีให้ระบุ โรงแรม (Hotel Pickup) ให้ใส่ชื่อโรงแรมที่เราเข้าพัก เพราะเจ้าหน้าที่จะมารอรับเราที่ Reception ในวันเดินทาง ถ้าสามารถระบุ ที่อยู่ และเบอร์โทรของโรงแรมที่เราจองไว้ได้ จะดีมาก หรือหากมีคำถามใดๆก็ ให้ใส่ในช่อง Special Requirement

8.      ในส่วนถัดมาเป็นส่วนของการชำระเงิน ซึ่งจะต้องใช้บัตรเครดิต ให้ใส่ข้อมูลลงไป แล้วกด Book Now

9.     หลังจากนั้นระบบจะส่งอีเมล์ มาให้เพื่อยืนยัน ซึ่งจะต้องพิมพ์ไปด้วยเพื่อใช้สำหรับยื่นให้เจ้าหน้าที่ที่จะมารับ ก่อนออกเดินทาง